เช็ค 8 จุด "ชาร์จมือถือ" เสี่ยง โดนแฮก ดูดเงินในบัญชี พร้อมวิธีแก้

กลโกงของมิจฉาชีพ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ต่างปรับรูปแบบใหม่ในการเข้าถึงข้อมูลของเหยื่อ โดยล่าสุด มีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือรายหนึ่ง ตกเป็นเหยื่อ เพราะว่าแค่เพียง ชาร์จมือถือ วางทิ้งเอาไว้ แต่จู่ๆเครื่องดับ เมื่อเปิดโทรศัพท์ขึ้นมาอีกที กลับมีข้อความจากแอปธนาคารแจ้งว่า มีเงินออกไปจำนวนกว่า 1 แสนบาท ทั้งที่ไม่มีการโทรเข้า-โทรออก และ ไม่มีใครส่งลิงก์ให้ยืนยันข้อมูล

ผู้เสียหาย เล่าว่า ปกติเค้ามีโทรศัพท์ 2 เครื่อง คือ เครื่องแอนดรอย ซึ่งเป็นเครื่องที่ใช้เล่นเกมส์อย่างเดียว ส่วนเครื่องหลัก คือ ไอโฟน ซึ่งเป็นเครื่องที่ชาร์จโทรศัพท์ทิ้งเอาไว้ แล้วโดนแฮก จนดูดเงินหาย

ณัฐ พยงค์ศรี นักวิชาการด้านคอมพิวเตอร์ชำนาญการ ให้ข้อมูลว่า จากที่ดูจากคลิป มีส่วนที่โดนแอปรีโมทเข้ามาที่เครื่อง ทำให้หน้าจอค้าง เพื่อทำให้เหยื่อใช้งานไม่ได้ ในขณะที่หลังบ้านของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กำลังดูดข้อมูลจากเครื่องของเหยื่อ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะควบคุม เพราะว่าส่วนมากผู้เสียหายจะไม่รู้ตัว แต่มีคำแนะนำ ถ้าหากพบว่าเครื่องหน่วงผิดปกติ อย่าเพิ่งใช้แอปธนาคาร เพื่อทำธุรกรรมทางการเงิน

2 กลโกงมิจฉาชีพ

2 กลโกงมิจฉาชีพ แฮกข้อมูล

ในขณะที่เพจ Drama-Addict เตือน 2 จุดเสี่ยง ถูกแฮกข้อมูลในขณะนี้ คือ สายชาร์จมือถือ ไอโฟน ที่ทีมแฮคเกอร์ดัดแปลงข้างใน ให้สามารถดูดข้อมูลจากเครื่องเหยื่อได้ สมมุตว่า มีคนใช้สายนี้เสียบชาร์จ ก็จะสามารถดูดข้อมูลในเครื่องนั้นได้ โดยตัวสายมันจะมีอุปกรณ์ในการดักจับข้อมูล

ถ้าเกิดเหยื่อพิมพ์ข้อมูล รหัสผ่าน อะไรแนวๆนี้ มันก็จะถูกส่งข้อมูลผ่านระบบไร้สาย ไปเข้าคอมพิวเตอร์ของมิจฉาชีพได้ ซึ่งปัจจุบันมีแบบใหม่ๆออกมาขายหลายชนิด มีแบบ usb-c ด้วย และวิธีการก็แนบเนียนขึ้น เพราะฉะนั้น ฝากพ่อแม่พี่น้อง ตอนนี้มิจฉาชีพมาทุกรูปแบบ และสายชาร์จของมิจฉาชีพ ก็มีขายทั่วๆไปในท้องตลาด หน้าตาภายนอกแยกจากสายชาร์จไม่ออก เพราะฉะนั้น เวลาจะชาร์จมือถือ ใช้สายใครสายมัน อย่ายืมสายคนแปลกหน้ามาใช้

อีกวิธีที่ คือ wifi ปลอม วิธีการแบบนี้ มิจฉาชีพจะไปตั้งจุด hotspot wifi ให้ชื่อคล้ายๆกับพวก wifi สาธารณะที่ให้ใช้ฟรี และต่อเน็ทได้ แต่ถ้าพวกเราหลงเชื่อไปใช้งาน wifi ปลอมพวกนี้ แล้วกรอกรหัสอะไรไป ข้อมูลก็จะถูกดักไว้โดยมิจฉาชีพ ถูกขโมยข้อมูลแบบไม่รู้สึกตัวกันเลยทีเดียว เพราะฉะนั้น หากจะใช้งาน wifi สาธารณะ เช็คกันดีๆว่า เป็นของจริงหรือของปลอม พลาดไปก็หมดเนื้อหมดตัวได้เลย

กลโกงของมิจฉาชีพ

8 สถานที่ต้องระวังการ ชาร์จโทรศัพท์มือถือ

1. จุดชาร์จที่สนามบิน หรือบนเครื่องบิน
ไม่ควรนำเพียงแค่สาย USB มาเสียบที่พอร์ต USB ชาร์จมือถือ เพราะเหตุว่าโดนล้วงข้อมูลได้ง่าย เพื่อความปลอดภัยควรจะนำ Adapter ของมือถือมาด้วย และเสียบผ่าน Adapter มือถือเข้ากับสาย USB มือถือก่อนชาร์จ เพื่อให้มั่นใจว่าใช้สำหรับชาร์จเท่านั้น ไม่โหลดข้อมูลมือถือ

2. รถไฟ
มีพอร์ตแบบ USB ให้บริการชาร์จ แต่เสียบแล้วมีโอกาสข้อมูลรั่วไหลเหมือนกัน และไม่มีปลั๊กไฟฟ้าทั่วไปสำหรับใช้ Adapter ให้เสียบด้วย เพราะฉะนั้นเพื่อความปลอดภัย เตรียมแบตเตอรี่สำรอง หรือ Power Bank ส่วนตัวในการชาร์จแบตด้วย

3. โรงแรม
มีพอร์ต USB ในการชาร์จแบต และมีรูปลั๊กไฟให้บริการ แต่แนะนำเสียบกับรูปลั๊กไฟปลอดภัยกว่า

4. รถเช่า
หลายคนท่องเที่ยวต่างประเทศ หรือต่างจังหวัด และใช้บริการรถเช่า ก็ไม่ควรนำมือถือมาชาร์จกับรถเช่า เพราะมีโอกาสถูกขโมยข้อมูลได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนำมือถือมาเสียบกับ USB เพื่อฟังเพลงจากรายชื่อเพลงในมือถือ เสี่ยงถูกลักขโมยข้อมูลได้ หรือจะชาร์จด้วย adapter ชาร์จแบตมือถือของรถยนต์ จะปลอดภัยกว่า

กลโกงของมิจฉาชีพ แฮกข้อมูล

5. จุดชาร์จตามสถานที่ท่องเที่ยว
นอกเหนือจากอันตรายต่อข้อมูลในมือถือแล้ว อาจเป็นอันตรายต่อตัวคุณด้วย ถ้ามีมิจฉาชีพมาเข้าใกล้เพื่อขโมยมือถือ ซึ่งทราบได้ถ้าเกิดคุณชาร์จมือถือ ณ จุดบริการชาร์แบตเตอรี่ฟรี

6. จุดชาร์จไฟตามห้ามสรรพสินค้า
ถ้าเกิดคุณชาร์จด้วยสายชาร์จ USB เสียบกับพอร์ต USB ก็มีโอกาสที่จะถูกลักขโมยรายชื่อผู้ติดต่อของคุณ, อีเมล ข้อความ,เสียงรูปภาพและวิดีโอ ที่อยู่ในมือถือได้ โดยเป้าหมายของแฮกเกอร์คือ ข้อมูลการเงิน หรือรหัสของแอปธนาคารออนไลน์

7. ห้องสมุด
อาจดูราวกับเป็นพื้นปลอดภัย แต่ควรหลีกเลี่ยงการเสียบอุปกรณ์มือถือ เข้ากับพอร์ต USB เพราะว่าหากเสียบพอร์ต USB มีความเสี่ยงที่จะเกิดการถูกถ่ายโอนข้อมูลได้เช่นกัน

8. ร้านกาแฟ
เป็นอีกสถานที่หนึ่ง ที่อาจจะมีความเสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูลเช่นกัน ควรจะระวังการชาร์จผ่านพอร์ต USB เพื่อความปลอดภัยก็ควรนำ Adapter ติดตัวไปด้วย สำหรับชาร์จโทรศัพท์มือถือจะเป็นการดีที่สุด

ทั้งนี้ มีคำแนะนำว่า ถ้าเกิดไม่มี Adapter ชาร์แบตเตอรี่ ในการชาร์จสมาร์ทโฟน และจำเป็นต้องต้องเสียบสาย USB เพื่อชาร์จไฟในสถานที่เสี่ยง เพื่อความปลอดภัย ให้ปิดเครื่องมือถือให้สนิท ก่อนเสียบสาย USB จะเป็นการชาร์จผ่านกระแสไฟฟ้า โดยไม่มีการโหลดข้อมูลในมือถือ

ชาร์จมือถือ แฮกข้อมูล
ตร.สอบสวนกลางเตือนภัย! เสียบ ชาร์จมือถือ ไม่ระวัง เสี่ยงถูกแฮกข้อมูล

เพจตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โพสต์แจ้งเตือนภัยเสียบสายชาร์จไม่ระวัง เสี่ยงถูกแฮกข้อมูลไม่รู้ตัวกล่าวว่า ปัจจุบันพบว่ามีสายชาร์จที่ฝังตัวส่งสัญญาณไร้สาย Access Point ที่เมื่อเราเสียบสายชาร์จเข้ากับอุปกรณ์ หรือโทรศัพท์มือถือของเราแล้ว อาจทำให้เหล่าแฮกเกอร์สามารถเข้าถึงข้อมูลในอุปกรณ์ของพวกเราได้จากระยะทางไกล โดยเเฮกเกอร์จะสามารถโจรกรรมข้อมูลต่างๆไม่ว่าจะเป็น เลขบัญชีธนาคาร, รหัสธนาคาร, รหัส หรืออาจจะถูกส่ง Malware อันตรายเข้ามายังอุปกรณ์

ซึ่งรูปร่างหน้าตาของสายชาร์จดังกล่าว จะมีหน้าตาคล้ายกับสายชาร์จทั่วไป มีทั้งสายชาร์จแบบ Lightning, Micro-USB หรือ USB-C ก็เลยอาจทำให้หลายคนไม่ทันระวังเนื้อระวังตัว ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการถูกแฮกข้อมูล ควรรอบคอบการใช้สายชาร์จของคนเเปลกหน้า หรือ การเสียบสายชาร์จแบตจากพอร์ทรูปแบบต่างๆตามสถานที่สาธารณะ อาทิเช่น ห้าง, โรงแรม, สถานีโดยสารต่าง ๆ